วิเคราะห์ USDCAD ดูแนวโน้มราคาล่าสุด วันที่ 9 มิถุนายน 2025

พบกับวิเคราะห์ USDCAD ที่สายเทรดสั้นห้ามพลาด การวิเคราะห์คู่เงิน Forex ดูแนวโน้มราคาล่าสุด สำหรับการวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานและปัจจัยทางเทคนิค อีกทั้งแนวทางในการเข้าออกออเดอร์ ไปจนถึงคำแนะนำเกี่ยวกับการเทรดคู่เงินแบบละเอียด เรียกได้ว่าครบจบในบทความเดียว!

บทวิเคราะห์ Forex วันนี้ : คู่เงิน USDCAD

บทวิเคราะห์ภาพรวมปัจจัยพื้นฐาน

ตลาดแรงงานของแคนาดาในเดือนพฤษภาคมสะท้อนทั้งความแข็งแกร่งและแรงกดดันที่ซ่อนอยู่ค่ะ โดยอัตราการว่างงานขยับขึ้นมาอยู่ที่ 7.0% ซึ่งถือว่าสูงที่สุดนับตั้งแต่ปี 2016 หากไม่นับช่วงโควิด-19 โดยเพิ่มขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่สามติดต่อกัน ทำให้มีประชาชนว่างงานกว่า 1.6 ล้านคน ซึ่งเพิ่มขึ้นเกือบ 14% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน

อย่างไรก็ตาม สาเหตุของการว่างงานที่เพิ่มขึ้นครั้งนี้ไม่ได้เกิดจากการปลดพนักงานครั้งใหญ่ แต่เกิดจากการที่การจ้างงานชะงักอยู่กับที่ ในขณะที่จำนวนประชากรเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วค่ะ โดยการจ้างงานเพิ่มขึ้นเล็กน้อยเพียง 8,800 ตำแหน่ง ซึ่งถือว่าผิดจากที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลง ขณะที่การจ้างงานประจำเพิ่มขึ้น 57,700 ตำแหน่ง แต่เกือบถูกหักล้างด้วยการจ้างงานพาร์ตไทม์ที่ลดลงถึง 48,800 ตำแหน่ง

ทั้งนี้ การจ้างงานใหม่กระจุกตัวอยู่ในภาคค้าส่ง ค้าปลีก และกลุ่มผู้หญิงวัยทำงาน ในขณะที่ภาคการผลิต การบริหารภาครัฐ และภาคบริการที่พักและอาหาร กลับมีการลดตำแหน่งงานลงค่ะ ท่ามกลางอัตราการมีงานทำที่ยังคงทรงตัวที่ 60.8% และค่าจ้างเฉลี่ยต่อชั่วโมงที่เพิ่มขึ้น 3.4% เมื่อเทียบกับปีก่อน

อย่างไรก็ดี นักวิเคราะห์เคยคาดว่าการขึ้นภาษีนำเข้าจากสหรัฐฯ โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมยานยนต์และโลหะ จะกระทบต่อการจ้างงานในแคนาดา แต่การจ้างงานยังคงมีเสถียรภาพอย่างน่าประหลาดใจ ท่ามกลางความตึงเครียดทางการค้าที่ยังคงดำเนินต่อไปค่ะ

ในเดือนเมษายน แคนาดามีดุลการค้าติดลบสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 7.1 พันล้านดอลลาร์แคนาดา เนื่องจากการส่งออกไปสหรัฐฯ ลดลงถึง 15.7% ซึ่งเป็นการลดลงสูงสุดในรอบ 5 ปี จากยอดขายยานยนต์ สินค้าอุปโภคบริโภค และพลังงานที่หดตัวลง แม้การส่งออกไปยังประเทศอื่นจะเพิ่มขึ้น แต่ก็ไม่สามารถชดเชยการลดลงของตลาดสหรัฐฯ ได้ค่ะ ด้านการนำเข้าก็ลดลงเช่นกัน แต่ได้รับแรงหนุนจากการนำเข้าทองคำและโลหะมีค่าที่เพิ่มขึ้นอย่างมาก

ท่ามกลางปัญหาทางการค้า ธุรกิจแคนาดาหลายแห่งขึ้นราคาสินค้าและทบทวนนโยบายการจ้างงานใหม่ ขณะที่ธนาคารกลางแคนาดายังคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 2.75% โดยให้เหตุผลว่า ภาวะเงินเฟ้อยังไม่คลี่คลายและมีความไม่แน่นอนทางภูมิรัฐศาสตร์ แต่เจ้าหน้าที่ธนาคารกลางก็ได้เปิดช่องว่าอาจจะมีการลดดอกเบี้ยในช่วงปลายปี หากการเติบโตของเศรษฐกิจชะลอตัวลงอีก อย่างไรก็ตาม ตลาดยังคาดการณ์ความเป็นไปได้ในการลดดอกเบี้ยในเดือนกรกฎาคมต่ำกว่า 50% และนักเศรษฐศาสตร์ส่วนใหญ่คาดว่าการผ่อนคลายน่าจะเริ่มในช่วงฤดูใบไม้ร่วงค่ะ

ทั้งนี้ แม้จะมีแรงกดดันทางเศรษฐกิจ แต่ภาคบริการของแคนาดายังคงพอมีแสงสว่างให้เห็นบ้าง ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการขยับขึ้นจาก 41.5 เป็น 45.6 ซึ่งสะท้อนว่าการหดตัวของกิจกรรมภาคบริการชะลอลง ความเชื่อมั่นของภาคธุรกิจปรับตัวดีขึ้น ซึ่งช่วยหนุนการจ้างงานใหม่ในระดับปานกลาง แม้ต้นทุนการดำเนินธุรกิจยังคงสูง

ในขณะเดียวกัน สหรัฐฯ ก็เปิดเผยข้อมูลตลาดแรงงานเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา โดยมีการจ้างงานเพิ่มขึ้น 139,000 ตำแหน่งในเดือนพฤษภาคม ซึ่งสูงกว่าที่คาดไว้ แม้จะต่ำกว่าตัวเลขของเดือนเมษายนที่มีการปรับใหม่ก็ตาม โดยรายงานนี้ช่วยหนุนค่าเงินดอลลาร์สหรัฐให้แข็งค่าขึ้น เนื่องจากการปรับลดความคาดหวังว่าเฟดจะลดดอกเบี้ยในเร็ววัน อย่างไรก็ตาม ดอลลาร์ยังคงอ่อนค่าลงในภาพรวมของปีนี้ จากความกังวลเกี่ยวกับสงครามการค้า การขาดดุลงบประมาณ และการที่ทั่วโลกทยอยปรับพอร์ตการลงทุนออกจากสินทรัพย์สหรัฐฯ ค่ะ

ทั้งนี้ หากมองลึกลงไปก็ยังเห็นสัญญาณอ่อนแออยู่ไม่น้อย โดยแรงงานโดยรวมในระบบลดลงมากที่สุดในรอบ 17 เดือน และมีการลดตำแหน่งงานในภาคการผลิตและก่อสร้าง ขณะที่นักเศรษฐศาสตร์จาก Macquarie เตือนถึงสัญญาณที่น่ากังวล เช่น อัตราการเข้าร่วมแรงงานที่ลดลง และจำนวนผู้ว่างงานถาวรที่เพิ่มขึ้น แม้ค่าจ้างและการจ้างงานภาคเอกชนยังคงทรงตัวค่ะ

อย่างไรก็ดี เจ้าหน้าที่ของเฟดยังคงใช้ความระมัดระวัง โดยมองว่าตลาดแรงงานชะลอลงแต่ยังไม่ถึงขั้นวิกฤติ โดยความเห็นของตลาดในขณะนี้คาดว่า เฟดจะยังไม่ลดดอกเบี้ยก่อนเดือนกันยายน ด้าน Patrick Harker ประธานเฟดสาขาฟิลาเดลเฟีย ก็เน้นย้ำว่าควรระมัดระวังเป็นพิเศษจากความไม่แน่นอนในข้อมูลและผลกระทบของภาษีต่ออัตราเงินเฟ้อค่ะ

ในภาพรวม นักวิเคราะห์เตือนว่าระเบียบเศรษฐกิจโลกกำลังเปลี่ยนแปลง โดย BCA Research ให้ความเห็นว่าโลกกำลังเคลื่อนไปสู่โครงสร้างแบบ “หลายขั้ว” ซึ่งจะลดบทบาทของสหรัฐฯ ในฐานะผู้นำทางการเงินโลก การเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้างนี้อาจทำให้ดอลลาร์อ่อนค่าลงในระยะยาว และกดดันตลาดหุ้นสหรัฐฯ เนื่องจากเงินทุนไหลออกไปยังยุโรปและจีนมากขึ้นค่ะ

ด้านค่าเงิน USDCAD ยังคงได้รับแรงหนุนจากความแข็งแกร่งของดอลลาร์สหรัฐ หลังจากตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯ ออกมาดีกว่าคาด ซึ่งช่วยลดแรงกดดันให้เฟดต้องรีบลดดอกเบี้ย ในขณะที่อัตราว่างงานของแคนาดากลับเพิ่มขึ้นสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2016 ซึ่งสะท้อนว่าเศรษฐกิจแคนาดายังอ่อนแอกว่าสหรัฐฯ โดยปัจจัยเหล่านี้ได้ทำให้แนวโน้มของ USDCAD เริ่มโน้มเอียงไปทางขาขึ้นในช่วงนี้ค่ะ

ทั้งนี้ ความเสี่ยงสำคัญในระยะข้างหน้า ได้แก่ ตัวเลขเงินเฟ้อ CPI ของสหรัฐฯ ข้อมูลการผลิตและบริการของแคนาดา รวมถึงการส่งสัญญาณนโยบายจากเฟดและธนาคารกลางแคนาดาค่ะ หาก CPI ของสหรัฐฯ ออกมาสูงกว่าคาด หรือ BoC ส่งสัญญาณผ่อนคลายแรง ก็อาจเป็นตัวกระตุ้นให้ USDCAD พุ่งขึ้นต่อได้ค่ะ

บทวิเคราะห์ภาพรวมทางเทคนิค

จากมุมมองทางเทคนิค ค่าเงิน USDCAD อยู่ใกล้เส้นค่าเฉลี่ย 50 วัน และยังอยู่เหนือเส้นค่าเฉลี่ย 200 วัน ซึ่งสนับสนุนแนวโน้มขาขึ้นในระยะกลาง ถ้าทะลุแนวต้าน 1.3700–1.3750 ได้ ก็มีโอกาสขึ้นไปทดสอบที่ 1.3840 ได้ค่ะ ท่ามกลาง RSI ที่อยู่แถวระดับ 58 ส่งผลให้ยังมีช่องที่จะขึ้นต่อโดยไม่เข้าสู่ภาวะซื้อมากเกินไปค่ะ

โดยแนวรับที่ใกล้ที่สุดอยู่ที่ 1.3600 และแนวรับถัดไปอยู่ที่ 1.3520 ซึ่งเป็นจุดบรรจบของเส้นค่าเฉลี่ย 100 วันและแนวรับทางจิตวิทยา หากข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ยังคงแกร่งกว่าแคนาดา การย่อตัวของ USDCAD อาจกลายเป็นโอกาสซื้อค่ะ

ทั้งนี้ กลยุทธ์ในการเทรด นักลงทุนอาจพิจารณาเข้าซื้อเมื่อราคาอ่อนตัวลงมาบริเวณ 1.3620–1.3600 โดยตั้งจุดตัดขาดทุนใต้ 1.3520 และตั้งเป้าทำกำไรที่ 1.3750 และ 1.3840 หากมีการทะลุ 1.3750 จะเป็นสัญญาณยืนยันการขึ้นต่อของแนวโน้มในระยะกลาง ขณะที่การหลุด 1.3520 จะเป็นการเปลี่ยนโครงสร้างราคาลงลึกกว่านั้นไปยัง 1.3400 ค่ะ

ข่าวเศรษฐกิจสำคัญที่ส่งผลต่อคู่เงิน USDCAD

สรุปวิเคราะห์ USDCAD

จุดน่าเข้า Buy

• Buy/ Long 1 : หากมีการแตะแนวรับที่ช่วงราคา 1.3672 – 1.3680 แต่ไม่สามารถทะลุแนวรับที่ 1.3680 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 1.3690 และ SL ที่ประมาณ 1.3668 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
• Buy/ Long 2 : หากสามารถทะลุแนวต้านที่ช่วงราคา 1.3690 – 1.3698 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 1.3703 และ SL ที่ประมาณ 1.3676 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้                      

จุดน่าเข้า Sell

• Sell/ Short 1 : หากมีการแตะแนวต้านที่ช่วงราคา 1.3690 – 1.3698 แต่ไม่สามารถทะลุแนวต้านที่ 1.3690 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 1.3677 และ SL ที่ประมาณ 1.3702 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
• Sell/ Short 2 : หากสามารถทะลุแนวรับที่ช่วงราคา 1.3672 – 1.3680 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 1.3664 และ SL ที่ประมาณ 1.3694 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้

คำเตือน

การให้ข้อมูลการวิเคราะห์คู่เงิน Forex ทั้งปัจจัยพื้นฐานและปัจจัยทางเทคนิค เป็นเพียงการให้ความรู้เกี่ยวกับข้อมูลเบื้องต้นเท่านั้น ไม่ได้มีเจตนาชักชวนในการลงทุนแต่อย่างใด เพราะการลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลให้ดีก่อนตัดสินใจการลงทุน

สำหรับใครที่สนใจอ่านรีวิวโบรกเกอร์ : Review Brokers

บทความในเรื่องการลงทุนที่น่าสนใจ : Investing

คลังความรู้จากคุณน้า : Knowledge